Sunday, January 6, 2008

Only the lonely แง่มุมชีวิตที่น่าสนใจของ หลวงพ่อน้อย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไทมณี จ.เพชรบุรี

รายการ Only the lonely ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค.2551 เปิดรายการมา ก็เป็นการสัมภาษณ์ หลวงพ่อน้อย หรือ พระครูกิตติวัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไทมณี อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในลักษณะของการสนทนาธรรม ตั้งหัวข้อเพื่อจะให้พรปีใหม่ แต่การสนทนาส่วนใหญ่ เป็นการเจาะชีวิตที่ผ่านมาของหลวงพ่อทั้ง 3 เบรค

นายบอนนั่งดูแล้ว คุ้นเคยมากๆ และนี่เป็นการฟังการสัมภาษณ์เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากที่นำมาออกกอากาศนี้ เป็นการบันทึกเทปล่วงหน้า เมื่อ 14 ธ.ค.2550 เวลา 20.30 น. ซึ่งในวันนั้น นายบอนได้ไปเป็นแขกรับเชิญของรายการ Only the lonely ด้วย ทำให้การนั่งดูรายการ Only the lonely เหมือนรู้สึกว่า ได้ไปนั่งในสตูดิโอในวันนั้นด้วย

เมื่อเริ่มต้นสัมภาษณ์ จนมาถึงช่วงสุดท้ายของรายการ ยิ่งคุ้นเคยมากขึ้น แทบจะจดจำรายละเอียดได้เลย ช่วงพักเบรคเพื่อตัดเข้าโฆษณา นายบอนไปช่วยเติมน้ำใส่แก้วน้ำถวายหลวงพ่อน้อย และก่อนจบรายการ พี่ปุ้ยได้ให้นายบอนหยิบชะลอมที่บรรจุส้มบางมดไปบางไว้ข้างๆพี่ปุ้ย ก่อนที่กล้องจะตัดมาจับภาพพิธีกรทั้งสองท่าน กล่าวขอพร และร่วมกันมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้แก่หลวงพ่อน้อย ตอนปิดรายการ


พอได้มารับฟังหลวงพ่อน้อยเป็นครั้งที่ 2 ก็จับรายละเอียดได้มากขึ้น หลังจากที่ไปนั่งฟังสดในสตูดิโอของ ASTV ในวันนั้น นายบอนจับใจความได้บ้าง และรู้สึกง่วงบ้าง และตื่นเต้นที่ได้มาพบกับพี่ฮอลล์ และพี่ปุ้ยเป็นครั้งแรก สมาธิจึงแตกกระเจิง ตื่นเต้น ประหม่าอยู่บ้าง


หลวงพ่อน้อย เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไทมณี บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี เมื่อบวชได้ 13 พรรษา ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัด จนมาถึงวันที่อัดรายการ ท่านบวชได้ 33 พรรษามาแล้ว ในสมัยที่ท่านยังไม่บวช ท่านคุมงานก่อสร้าง ได้เงินเดือนถึง 50,000 บาท ซึ่งตอนนั้น อายุ 17 ปี เมื่อชอบพอกับหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งรักใคร่กันมาก แต่โดยธรรมเนียมแล้ว ผู้ชายต้องบวชเรียนก่อนที่จะแต่งงาน ท่านจึงตัดสินใจบวชเมื่อ อายุ 20 ปี


หลังจากบวชแล้ว ได้สัมผัสกับรสพระธรรม และอยู่ที่วัดโพธิ์ไทมณีมาตลอด เมื่อพิจารณาดูโบสถ์ที่ยังต้องมีการต่อเติมซ่อมแซมอีกมาก ท่านจึงมีขอส่วนร่วมด้วย จากที่ตั้งใจว่าจะบวชเรียนไม่นาน 3 สัปดาห์หรือ 3 เดือน... นายบอนก็ไม่แน่ใจครับ เพราะฟังมาถึงช่วงนี้ก็ชักจะง่วงๆขึ้นมา... พหลวงพ่อน้อยจึงยังไม่ยอมสึก อยู่ต่อไปเรื่อยๆ


ดูเหมือนว่า ท่านจะมีญาณพิเศษได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างที่ข้างหู บอกว่า ท่านจะมีอายุเท่านั้นเท่านี้ เมื่อท่านทราบดังนั้น ท่านจึงตัดสินใจว่า ถ้ามีอายุขัยเท่านั้น ก็ขออยู่ในเพศบรรพชิต เป็นพระสงฆ์ อยู่ทำประโยชน์ให้สังคมแบบนี้จะดีกว่า


หัวหน้าของหลวงพ่อ ได้มาตามหลวงพ่อให้สึก เพื่อกลับไปทำงานอยู่ทุกๆ ปี ซึ่งท่านก็ปฏิเสธทุกครั้ง แต่หัวหน้าก็มาตามทุกปี เป็นเวลา 9 ปี หลวงพ่อก็ยังไม่ยอมสึก จนกระทั่งบัดนี้


ส่วนสาวคนรัก ที่หลวงพ่อให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า เมื่อบวชถึงกำหนดเวลาที่บอกไว้แล้วจะสึกมาแต่งงานด้วย เมื่อสาวเจ้ามาทวงสัญญา หลวงพ่อน้อยก็ถามกลับว่า สัญญาอะไรหรือ เพราะท่านก็ลืมไปแล้ว เมื่อแฟนของท่านพูดให้ฟังท่านจึงกล่าวเหตุผลของท่าน และบอกว่า หากเธอพบกับชายคนอื่นที่ดี แบบหลวงพ่อ จะตัดสินใจแต่งงานด้วยก็ตามใจเถิด หลังจากนั้น 3 เดือน เธอก็ส่งการ์ดแต่งงานมาถึงหลวงพ่อน้อย นิมนต์ท่านไปสวดในงานแต่ง ซึ่งหลวงพ่อน้อยได้พบพระสงฆ์อีก 4 รูปไปร่วมงานนั้น .. ทางญาติของฝ่ายหญิงก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ก็เข้าใจ....


เมื่อหลวงพ่อน้อยไปร่วมงานแต่งงาน เลยมอบพระพุทธรูปให้อดีตคนรัก กล่าวว่า นับจากนี้ หากมีทุกข์ร้อนใจ ก็ขอให้กราบไว้ อธิษฐานต่อพระพุทธรูปที่มอบให้นี้แทนอาตมาละกัน เพราะอาตมาไม่สามารถที่จะให้คำแนะนำปรึกษา พูดคุยได้เหมือนแต่ก่อนนั้นแล้ว เมื่อหญิงสาวรับพระ ก้มกราบแล้ว ร้องไห้ และถึงกับสลบไปอยู่ครู่หนึ่ง.....


ด้วยความที่มีหลายคนให้ความเคารพต่อหลวงพ่อน้อยมาก เมื่อมากราบหลวงพ่อน้อย ก็อยากที่จะได้วัตถุมงคล ของศักดิ์สิทธิ์ติดไม้ติดมือกลับไปบูชาบ้าง แต่หลวงพ่อน้อยเป็นพระ ที่ไม่มีพระเครื่องไว้สำหรับแจก เลยคายชานหมากที่เคี้ยวในปากมอบให้แทบ บอกให้เอาชานหมากใส่พะอบวางไว้บนหิ้ง กราบไหว้อธิษฐานบูชาละกัน ทุก 3 เดือนให้เปิดดู ถ้าชานหมากกลายเป็นแก้วแล้ว ห้ามกลับมาเหยียบวัดนี้อีก


ชายผู้นั้น รับชานหมากกลับไปปฏิบัติตาม 3 เดือนแรก เปิดดูที ชานหมากก็ยังเหมือนเดิม อีก 3 เดือนต่อมา ก็เปิดอีก ยังเหมือนเดิม เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 9 เปิดดูอีกครั้ง ชานหมากที่เป็นก้าน กลายเป็นก้านใสๆ เหมือนแก้ว และตั้งแต่นั้นมา กิจการการค้าของชายผู้นั้นก็ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า มีทรัพย์สินหลักพันล้าน แต่เขาผู้นั้นก็พาซื่อ ไม่กลับมาที่วัดอีกเลย


ทำให้จากครั้งนั้น หลวงพ่อน้อยมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น หลายคนที่ไปกราบหลวงพ่อจึงมักจะขอชานหมากเพื่อกลับไปบูชา เป็นสิริมงคล


หลวงพ่อกล่าวในรายการ Only the lonely ซึ่ง 2 พิธีกร เป็นลูกศิษย์เอกว่า ความจริงแล้ว ที่ให้ชานหมากเป็นกุศโลบายเพื่อให้ผู้รับตั้งมั่น ตั้งสติกับไปประกอบสัมมาอาชีพ เพื่อให้มีสิ่งยึดเหนี่ยว มีหลักยึดนำทางชีวิตต่อไป


นี่คือบางส่วนที่หยิบมาจากรายการ Only the lonely ที่ออกอากาศในคืนวันที่ 1 ม.ค. 2551


เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.51 ที่พี่ปุ้ย มอบ DVD บันทึกรายการ ในวันที่ คุณโกศล อนุสิม และ ที่นายบอนมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ พี่ปุ้ยหยิบ DVD ออกมา 3 แผ่น ให้นายบอน 2 แผ่น และอีก 1 แผ่นก็คือ ตอนที่หลวงพ่อน้อยมาให้สัมภาษณ์ในตอนที่ออกอากาศในคืนวันขึ้นปีใหม่นี้แหละ พี่ปุ้ยรีบเก็บเข้ากระเป๋าของท่านไว้อย่างดีทีเดียว....


.... แหม อยากไปขอพี่ปุ้ยมาซักแผ่นจึง จะ copy ให้ได้มั้ยน้า จะได้นำมาเผยแพร่ ให้คนอื่นๆได้ดูบ้าง หรือ ทำเป็นคลิปวิดีโอเผยแพร่ใน Mblog และที่อื่นๆให้ผู้ที่สนใจได้คลิกชมรายการ only the lonely ในตอนนี้ได้ทุกเวลาที่ต้องการท่าจะดีไม่น้อย.......




6 มกราคม 2551 เวลา : 9:44:00

No comments:

Post a Comment