Thursday, December 13, 2007

ผู้ที่ติดตามชม ASTV ช่อง News1 ในรายการต่างๆ จะสังเกตเนที่ด้านล่างของจอภาพ จะมีข้อความ SMS มากมาย และจะมีชื่อผู้ส่งขาประจำ ที่คุ้นชื่อกันดี แทบทุกวัน

Only The Lonely
วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2550
---------------เปิดรายการ---------------

- ไตเติ้ลรายการ
- พิธีกรทักทายผู้ชมทางบ้าน

สวัสดีค่ะ พบกับรายการ Only The Lonely ทุกคืน ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนครึ่ง จันทร์ - ศุกร์ ที่สถานีโทรทัศน์ ASTV 3 แฮปปี้ วาไรตี้ แชนนัล
พบกับพวกเรา ดิฉัน จรินยา ศักดิ์ศิริ ค่ะ
กุลธิดา ธรรมวิภัชน์ ค่ะ
เราจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยกัน ในเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย พร้อมกับรับสายสดจากทางบ้าน ในช่วง Lonely Talk
วันนี้เป็นวันศุกร์สบายวาไรตี้ ซึ่งเราจัดให้เป็นวันสบาย ๆ เรื่องราวที่เลือกมาฝากก็เรื่องสบาย ๆ ประมาณชวนกิน ชวนเที่ยว
ซึ่งช่วง โลนลี่ ทอล์ค เราจะสนทนากับนายบอน กาฬสินธุ์จาก M Blog/และบลอคอื่น ๆอีกมากมาย หรือคุณอาษา อาษาไชย พร้อมรับสายสดจากคุณ ๆ ทางบ้านและชาวบลอคในหัวข้อ “ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
ส่วน VTR เราก็ไปสอบถามนานานาทัศนะในหัวข้อนี้เช่นเดียวกันค่ะว่า
“ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
CARLACK 68 แจกของรางวัลพิเศษ 3 ชิ้น/สัปดาห์สำหรับแฟน ๆ รายการ
พิเศษสุด แกลมเมอร์ แฮร์แคร์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ผมจากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ BEDHEAD ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมสำหรับคนรุ่นใหม่ วัยมันส์บังคับทิศทางเส้นผมได้ตามใจปรารถนา หาซื้อได้ที่ห้างเซ็นทรัล แผนกเครื่องประดับตกแต่งสตรีทุกสาขา และแบรนด์ CATWALK ผลิตภัณฑ์ผมสำหรับหนุ่มสาวแฟชั่นทันสมัย เบาสะอาด จัดแต่งทรงผมได้ในพริบตา หาซื้อได้ที่ ร้านบูท ทุกสาขา
มอบ กิฟท์ เวาเชอร์ มูลค่า 200 บาท สำหรับไปสระซอยผม และมูลค่า 500 บาท สำหรับไปดัดยืดทำสีผม ให้กับคุณผู้ชม Only the Lonely ที่โทรเข้ามา เลือกได้ตามใจเลยค่ะ....
(หมายเหตุ... ราคาสระซอยผม 300 บาท คนได้รางวัลจะเสียเงินแค่ 100 บาท / ส่วน ดัดยืดทำสีผม เขาคิดราคา 1,000 – 2,000 ตามสภาพผมความยาว ความหนา ก็จะได้ลด 500 บาทค่ะ...)
พร้อมกันนี้ทุกวันจันทร์เราจะประกาศรายชื่อ 3 ผู้โชคดีที่ได้รับของรางวัลจาก คาร์แล็ค 68 ด้วยค่ะ แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เราเจอกัน ก็ขอประกาศวันนี้ค่ะ
ตอนนี้ขอไปจับเข่าเมาท์ข่าวค่ะ
ข่าวที่ 1/ช่วยกันอ่าน
สักการะพระบรมสารีริกธาตุครบองค์ เสริมสิริมงคลส่งท้ายปี
โดย ผู้จัดการออนไลน์
อีกหนึ่งกิจกรรมยิ่งใหญ่ ที่ภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงานร่วมกันจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเฉลิมฉลองปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา นั่นคือ “งานมหาพุทธบูชาพระบรมสารีริกธาตุโลก”

ระหว่าง วันที่ 15-23 ธันวาคม 2550 ที่จะถึงนี้ ณ Hall 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พุทธศาสนิกชนทั้ง ชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้มีโอกาสกราบไหว้สักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอัครสาวกที่ครบองค์สรีระมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างใกล้ชิดเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตตนเองและครอบครัวส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง โดยการเข้าชมงานครั้งนี้ไม่เสีย ค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
“พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุที่จะอัญเชิญมาในการจัดงานครั้งนี้เดินทางมาจากประเทศทิเบต อินเดีย และนานาประเทศ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกที่ได้มีการรวบรวมองค์สรีระส่วนต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าใน 48 พระองค์ ได้แก่ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระนาคเสน พระสีวลี พระโมค คัลลานะ พระอานนท์ พระสารีบุตร พระปะคุละ ฯลฯ โดย ประชาชนชาวไทยจะได้เห็นถึงความอัศจรรย์ของความหลากหลายของพระบรมสารีริกธาตุองค์ต่าง ๆ รวม 8,800 องค์ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหาดูได้ยาก”
-------------------------------------------------------------------------------------------------
อ.วรธนัท อัศกุลโกวิท ปรมาจารย์ผู้เดินทางศึกษาพุทธประวัติจากประเทศทิเบต จีน อินเดีย พม่า มอญ เขมร รวมถึงเรื่องราวของพระบรมสารีริก ธาตุ และพระอรหันตธาตุมาเกือบ 50 ปี กล่าวถึงที่มาของพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมยกตัวอย่างพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุที่ทุกท่านจะได้ชมภายในงาน ซึ่งได้แก่ พระบรมสารีริกธาตุส่วนสมอง แบ่งออกเป็น พระธาตุส่วนของแกนสมอง ซึ่งได้กลายสภาพคล้ายกับอัญมณี 8 สี (แดง ส้ม เหลือง เขียวชมพู ฟ้า คราม ม่วง ทอง) พระธาตุส่วนเนื้อสมอง ซึ่งจะกลายสภาพไปเป็นพระธาตุขนาดเล็กที่มีสีขาวเคลือบทองคล้ายไข่มุก รวม ถึงพระธาตุส่วนกะโหลกศีรษะ, พระธาตุหัวใจ-หลอดเลือดหัวใจ รวมถึงพระบรมสารีริก ธาตุพระโลหิต 6 สี (ดำ แดง เขียว ส้ม เหลือง ขาว) พระธาตุส่วนน้ำเหลือง รวมถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ ที่ทำมาจากไม้กฤษณาซึ่งเป็นไม้มงคลที่มีกลิ่นหอม อายุกว่า 2,000 ปี
รูปแบบการจัดกิจกรรมภายในงานจะแบ่งออกเป็น 4 โซน บนพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม. ประกอบด้วย
โซนที่ 1 จะเป็นลานโล่งออกแบบด้วยลวดลายวิจิตรพุทธโบราณ ซึ่งจะมีซุ้มต้อนรับที่เตรียมเครื่องสักการะบูชา ไว้พร้อมสำหรับผู้เข้าชมงานที่ต้องการนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
โซนที่ 2 เป็นโซนนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาเกี่ยวกับที่มาของ พระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจัดแสดงในครั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยี INTERACTIVE อันทันสมัย ระบบคอมพิวเตอร์แบบ TOUCH SCREEN ที่ผู้ชมสามารถเลือกค้นรายละเอียดข้อมูลของพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
โซนที่ 3 เป็นส่วนจัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและพระ ธาตุมากกว่า 8,800 องค์ ซึ่งจะถูกอัญเชิญมาจัดแสดงในรูปแบบ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต (LIVE MUSEUM) ที่ให้บรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปเมื่อสมัยพุทธกาล ณ เมืองกุสินารา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน และทรงมีปณิธานจะละไว้ซึ่งสรีระ เพื่อให้สาธุชนทุกศาสนาได้กราบไหว้บูชา และระลึกถึงพระพุทธคุณ รวมทั้งพระธรรม คำสั่งสอนของพระองค์อย่างคำสั่งสอนของพระองค์อย่างใกล้ชิด
โซนที่ 4 เป็นโซน MULTIMEDIA SIGHT & SOUND SHOW ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธประวัติ และการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุไปยังที่ต่าง ๆ ของโลก ด้วยการแสดงแสง เสียง เลเซอร์ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา
โดยเฉพาะในวันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ จะมีขบวนอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุอย่างยิ่งใหญ่เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานในพิธี ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และพิธีฝ่ายสงฆ์จะนิมนต์พระสงฆ์ เจริญพุทธมนต์ 809 รูป
นับเป็นอีกหนึ่งงานยิ่งใหญ่ที่ชาวไทยจะได้มีโอกาสบูชาพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่า หากพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้ อาจต้องรอไปอีกนาน.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระธาตุ คือ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้ซึ่งได้บรรลุหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีความบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสและเกิดพลังบริสุทธิ์ไปเปลี่ยนแปลงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้มีความแตกต่างไปจากร่างกายคนธรรมดาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ จวบจนเมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วและได้ทำการประชุมเพลิงเผาร่างนั้นจึงจะได้เป็นวัตถุเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีสีสันแตกต่างกันไป เรียกว่า “พระธาตุ” ซึ่งต่างจากมนุษย์บุคคลธรรมดาที่จะเหลือเพียงเถ้ากระดูก ดังนั้น พระบรมสารีริกธาตุ จึงหมายถึง พระธาตุที่เป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปูชนียธาตุอันทรงคุณค่าอย่างสูงสุดในโลกสำหรับพุทธศาสนิกชน เกิดจากการถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธเจ้าภายหลังจากที่ได้ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน โดยพันผ้าและสำลีรอบพระสรีระถึง 500 ชั้น ก่อนนำขึ้นถวายพระเพลิง ส่วนพระธาตุที่เป็นของพระอรหันตสาวกจะเรียกว่า “พระธาตุ หรือพระอรหันตสาวกธาตุ”
----------------------------------------------------------------------------------------------------
จากตำนานกล่าวว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเล็งเห็นว่า พระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง 45 ปี ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ศาสนาของพระองค์ยังไม่แพร่หลายและหมู่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่ทันสมัยพระองค์มีมากนัก หากได้อัฐิธาตุของพระองค์ไปอุปัฏฐาก จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุ ของพระองค์แตกย่อยออกเป็น 3 สัณฐาน ยกเว้น ธาตุทั้ง 7 ประการ คือ กระดูกหน้าผาก 1 (พระนลาฏ) พระเขี้ยวแก้ว 4 และกระดูกไหปลาร้า 2 (พระรากขวัญ) นอกจากนั้นให้กระจายไปทั่วทุกสารทิศเพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์โลกต่อไป.
จาก Link
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=148577&NewsType=1&Template=1
---------------------------------------------
ข่าวที่ 2/ช่วยกันอ่าน
'Monjo' เปี๊ยะไส้ผลไม้ ก้าวใหม่แห่งนวัตกรรมขนมไทย
โดย ผู้จัดการออนไลน์
"ดิสรณ์ มาริษชัย" เจ้าของธุรกิจขนมเปี๊ยะแบรนด์ "ขนมแม่เอย" แรกเริ่มมุ่งพัฒนาธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ดังกล่าว ควบคู่กับการผลิตวัตถุดิบไส้ขนมป้อนธุรกิจเบเกอรี่แบรนด์ดัง เนื่องจากเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบ และมีสูตรของตนเอง จึงได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งรสชาติรูปลักษณ์ใหม่ ๆเพื่อหาลู่ทาง และช่องว่างในธุรกิจ กับโอกาสของธุรกิจเบเกอรี่ที่สดใสในประเทศไทย โดยได้เปลี่ยนรูปลักษณ์จากขนมเปี๊ยะก้อนกลม ๆ ที่เห็นวางขายทั่วไปและเหมือนกันเกือบทั่วโลกนั้น เปลี่ยนไปเป็นขนมเปี๊ยะการ์ตูนต่างๆ และรูปสัตว์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้เท่าตัว
ล่าสุด ดิสรณ์ ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ให้แก่สินค้า โดยพัฒนาสูตรขนมเปี๊ยะไส้ผลไม้ล้วนๆ 100% เช่น มะตูม กล้วย มะม่วง ขนุน เมล็ดทานตะวัน และธัญพืช พร้อมส่วนผสมของมาการีนที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในเบเกอรี่จากตะวันตก
ทั้งนี้ เขาต้องการความผสมผสานในรสชาติระหว่างขนมเปี๊ยะของเอเชียกับกลิ่นหอมของเบเกอรี่ตะวันตก โดยเนื้อแป้งที่ยังขาวนวล แต่ความหอมเมื่ออบเปลือกขนมจากกลิ่นมาการีน วางโพซิชั่นขนมเปี๊ยะเช่นเดียวกับเบเกอรี่
-----------------------------------------------------------------------------------------------
"ผมตั้งชื่อแบรนด์ขนมที่มีนวัตกรรมใหม่นี้ว่า Monjo ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นใช้เรียกขนมประเภทสอดไส้ เช่นเดียวกันที่จีนที่เรียกว่า เปา ทั้งนี้ได้นำภาษาญี่ปุ่นมาใช้เรียกเพื่อสร้างความเก๋ให้กับตัวสินค้า มองแล้วเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสามารถขยายในต่างประเทศได้ ซึ่งคาดจะเห็นใน 1-2 ปีข้างหน้านี้"
ดิสรณ์ ใช้เวลาทดลองตลาดมานานกว่า 6 เดือน วางจำหน่ายในงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยไม่ติดแบรนด์ ปรากฏว่ารสชาติและรูปลักษณ์การ์ตูนต่างๆ นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเกิดการซื้อซ้ำ ด้วยติดใจในรสชาติและรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากขนมเปี๊ยะทั่วไป ทำให้ได้กลิ่นหอมอย่างเบเกอรี่ รสเค็มหวานจากผลไม้ ทำให้เขาเกิดความมั่นใจต่อสินค้า และจะใช้แบรนด์ Momjo นี้บุกตลาดขยายเครือข่ายในรูปแบบแฟรนไชส์
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ในเบื้องต้นนี้ เตรียมสร้างร้านต้นแบบ เป็นร้านสะแตนอะโลน ขนาดพื้นที่ 12-15 ตร.ม. มูลค่าการลงทุน 6 แสนบาท เจาะพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า โดยบริษัทจะขยายเองก่อน 4 สาขา และเล็งขยายเครือข่ายออกทั่วประเทศโดยมีศูนย์กลางในภาคต่างๆ ซึ่งภายในพื้นที่ร้านจะมีการทำขนมสดๆ ให้ลูกค้าได้เห็น และเครื่องดื่มมีมีเข้ามาให้บริการ ขณะที่แบรนด์ขนมแม่เอยนั้น ได้เตรียมแตกไลน์ออกสู่ขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด แต่มีรูปแบบและหน้าตาที่แตกต่างออกไปจากเดิม
และในส่วนของการค้าส่งและรับผลิตไส้ขนมให้กับรายต่างๆ นั้น จะขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศ และที่เปิดตลาดต่างประเทศไว้แล้ว เช่น พนมเปญ และเตรียมเจรจาที่จีน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ดิสรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ธุรกิจของบริษัทได้มีการขยายควบคู่กับอุตสาหกรรมเบเกอรี่ แต่ด้วยสินค้าเป็นเอเชีย ทำอย่างไรที่จะให้มีกลิ่นไอของตะวันตกควบคู่ไปด้วย ซึ่งได้ตีโจทย์ความต้องการจองผู้บริโภคออก รวมถึงการยอมรับรสชาติที่ร่วมสมัยมีกลิ่นของเบเกอรี่ตะวันตกเข้ามาผสม จึงนับเป็นนวัตกรรมอีกก้าวของสินค้า ที่หมายมั่นจะครอบคลุมทุกพื้นที่และอยู่ในใจของคนที่ชื่นชอบ
จาก Link
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145198
-----------------------------------
ช่วงที่ 2
ประเด็น
หัวข้อ “ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
- เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ โทร เข้ามาซักถามนะคะ คุณอาจเป็นผู้โชคดีได้รับของรางวัลจากCARLACK 68 แจกของรางวัลพิเศษ 3 ชิ้น/สัปดาห์สำหรับแฟน ๆ รายการพิเศษสุด แกลมเมอร์ แฮร์แคร์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ผมจากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ BEDHEAD ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมสำหรับคนรุ่นใหม่ วัยมันส์บังคับทิศทางเส้นผมได้ตามใจปรารถนา หาซื้อได้ที่ห้างเซ็นทรัล แผนกเครื่องประดับตกแต่งสตรีทุกสาขา และแบรนด์ CATWALK ผลิตภัณฑ์ผมสำหรับหนุ่มสาวแฟชั่นทันสมัย เบาสะอาด จัดแต่งทรงผมได้ในพริบตา หาซื้อได้ที่ ร้านบูท ทุกสาขา
มอบ กิฟท์ เวาเชอร์ มูลค่า 200 บาท สำหรับไปสระซอยผม และมูลค่า 500 บาท สำหรับไปดัดยืดทำสีผม ให้กับคุณผู้ชม Only the Lonely ที่โทรเข้ามา เลือกได้ตามใจเลยค่ะ....
พบกับ VTR หัวข้อ “ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
สรุปประเด็นใน VTR
ช่วง โลนลี่ ทอล์ค เรากำลังสนทนาอยู่กับนายบอน กาฬสินธุ์จาก M Blog/และบลอคอื่น ๆ อีกมากมาย หรือคุณอาษา อาษาไชย
- ขอทำความรู้จักค่ะ ว่าเป็นคนที่ไหน เรียนจบอะไรมา
- ตอนนี้ทำงานอะไร ที่ไหน
- ทำไมนายบอนถึงมาเป็นนักเขียนออนไลน์ เริ่มต้นจากอะไร
- ให้อธิบายความหมายของ Blog ให้คุณผู้ชมรู้จัก
- ขณะนี้เขียนบลอคทั้งหมดกี่บลอค อะไรบ้าง
(เปิดตย.อินเสิร์ท : 14 blog Mblog gotoknow blogspot wordpress)
- เขียนเยอะขนาดนี้ เรียกว่า เป็นนักเขียนออนไลน์ได้หรือยัง
- แต่ละบลอค นายบอนได้วางกลยุทธ์ในการนำเสนออย่างไร
- ทำไมถึงเขียนออกมาได้เรื่อย ๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
- เคล็ดลับการเขียนบลอคให้ประสบความสำเร็จดูตรงไหน และจะเขียนอย่างไร
- เอาเวลาที่ไหนมาเขียน
- (ไม่มีฟง มีแฟนกับเขาบ้างเลยเหรอ ถึงว่างเขียนซะ)
- ตกลงคุณสมบัติสำคัญสำหรับนักเขียนออนไลน์มีอะไรบ้าง
- ใคร ๆ ก็สามารถเป็นนักเขียนออนไลน์ได้จริงหรือเปล่า
- รับสายสด
ช่วงหน้าเรา 2 คนจะกลับมาคุยกันต่อกับคุณอาษา อาษาไชยค่ะ โดยจะเจาะลงที่ M Blog พร้อมถามเขาว่า ทำไมเขียนถึงรายการ Only บ่อยจัง พักสักครู่ค่ะ
-----------------------------------
ช่วงที่ 3
ประเด็น
หัวข้อ “ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
- กลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการ
โทร เข้ามาพูดคุยนะคะ คุณอาจเป็นผู้โชคดีได้รับของรางวัลจาก
CARLACK 68 แจกของรางวัลพิเศษ 3 ชิ้น/สัปดาห์สำหรับแฟน ๆ รายการ
พิเศษสุด แกลมเมอร์ แฮร์แคร์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ผมจากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ BEDHEAD ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมสำหรับคนรุ่นใหม่ วัยมันส์บังคับทิศทางเส้นผมได้ตามใจปรารถนา หาซื้อได้ที่ห้างเซ็นทรัล แผนกเครื่องประดับตกแต่งสตรีทุกสาขา และแบรนด์ CATWALK ผลิตภัณฑ์ผมสำหรับหนุ่มสาวแฟชั่นทันสมัย เบาสะอาด จัดแต่งทรงผมได้ในพริบตา หาซื้อได้ที่ ร้านบูท ทุกสาขา
พร้อมกันนี้ แกลมเมอร์ แฮร์แคร์ ลาดพร้าว 101 มอบ กิฟท์ เวาเชอร์ มูลค่า 200 บาท สำหรับไปสระซอยผม และมูลค่า 500 บาท สำหรับไปดัดยืดทำสีผม ให้กับคุณผู้ชม Only the Lonely ที่โทรเข้ามา เลือกได้ตามใจเลยค่ะ....
- มาคุยในประเด็นกันต่อ รับสายสด
“ นักเขียนออนไลน์ ใครก็เป็นได้..จริงหรือ ”
ช่วง โลนลี่ ทอล์ค เรากำลังสนทนาอยู่กับนายบอน กาฬสินธุ์จาก M Blog/และบลอคอื่น ๆ อีกมากมาย หรือคุณอาษา อาษาไชย
- ขอเจาะเฉพาะ M Blog ทำไมเขียนถึงรายการ Only บ่อยจัง ปิ๊งแรกเริ่มจากอะไร (เขียนถึงเฉลี่ยทุกสัปดาห์ )
(เปิดตย.อินเสิร์ท M blog ที่เขียนถึงรายการ Only the Lonely)
- จับจุดไหนมาเขียนบ่อยที่สุด และทำไม
- อยากให้อธิบายเคล็ดลับการถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวิดีโอรายการ
(พิจิกา/พี่ฮอลล์ขอมาเป็นพิเศษค่ะ)
- ขั้นตอนการทำ การเลือก เวลาที่ใช้
- ถ้านะ ถ้าให้เขียนบันทึกเกี่ยวกับรายการนี้แบบสด ๆ จะเขียนประเด็นไหน จะเมาท์อะไร
- ขอให้เมาท์ถึงชาว M Blog ที่คุณบอนประทับใจ
- ความสัมพันธ์ของชาวบลอคเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ M Blog
- การเขียนบลอคมีเสน่ห์ตรงไหน
- ทิ้งท้ายถึงผู้ที่อยากเป็นนักเขียนออนไลน์จะเริ่มต้นอย่างไร
- รับสายสด
สรุปจบ : ขอบคุณ คุณผู้ชมทุกท่าน ขอบคุณทุกสาย และทุก SMSขอบคุณเสื้อผ้าสวย ๆ จาก.....
ขอบคุณ แกลมเมอร์ แฮร์แคร์ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม BEDHEAD (เบดเฮด) ที่เซ็นทรัลทุสาขาและ CATWALK (แคทวอร์ค) ที่ บูทสโตร์ ยินดีให้คำปรึกษาการดูแลรักษาเส้นผมที่ Call Center 02-731-2011 ตลอด 24 ชั่วโมง
พบกับ Only The Lonely ได้ใหม่ในวันจันทร์หน้าเวลา 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนครึ่ง ยังคงนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ แบบไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัยเหมือนเดิมค่ะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
-

No comments:

Post a Comment